วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พาสัญจร " สุนทรวิจิตร " ถนนเลียบโขงที่เก่าและสวยที่สุดของนครพนม


ที่ดินที่เห็นอยู่ปลายสุดของถนนสุนทรวิจิตร  ในอดีตเคยเป็นโรงเหล้าเก่า
ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของที่ราชพัสดุ รอการประมูลเพื่อพัฒนาที่ดินต่อไป
มีคนสงสัยว่า  บ้านสีขาวที่เห็นอยู่ข้างหน้าครอบครองที่ดินประเภทใด  ?
ถนนช่วงนี้เปลี่ยวและรกร้างซักหน่อยเพราะไม่มีผู้คนอยู่อาศัย
ทางแยกซ้ายมือไปสวนหลวง ร. 9  ตรงไปเป็นทางตัน
ทางตัน
ร้านกินดื่ม " เรือนมยุรา "  รู้สึกจะแต่งร้านได้โดนใจนักดื่ม มีบรรยากาศดี
ย่านนี้ได้สัมผัสกลิ่นไอของแม่น้ำโขง
สามแยกหนองแสงคือ จุดเริ่มต้นของถนนสุนทรวิจิตร เลี้ยวซ้ายไปหนองคาย
ตรงไปหนองคาย  ซ้ายมือเข้าเมือง
ด้านริมโขงซ้ายมือเคยมีบ้านเรือนอยู่เต็ม  ตอนนี้รื้อทำเป็นเขื่อนหมดแล้ว
ย่านชุมชนหนองแสง
โรงเรียนสันตยานันท์

โบสถ์คาทอลิคหนองแสง
โบสถ์สร้างใหม่
อาคารนี้มีอายุเก่าแก่
อาคารที่เห็นข้างหน้า เคยเป็นโบสถ์ (ปูน)เก่ามาก่อน
เขตเทศบาลเมืองนครพนม  ได้รับคำชมว่ารักษาความสะอาดของถนนได้ดีเยี่ยม
ชุมชนหนองแสง
ร้านอาหาร " เรือนริมน้ำ " เพิ่งเปิดใหม่แต่ได้รับความนิยมสูง
ภายในร้านอาหาร " เรือนริมน้ำ " มีบรรยากาศดีมาก  แถมอาหารก็มีรสชาตดี เจ้าของก็ดี
อาคารสไตล์เฟร๊นซ์โคโลเนียลที่สวยและเก่าแก่กว่า 70 ปีแล้ว
การดูแลเป็นอย่างดี  ช่วยให้อาคารยังคงใช้งานได้ดีทุกวันนี้
นับเป็นอาคารที่น่าสนใจในแง่ศิลปะสถาปัตยกรรม
มีอพาร์ตเม้นต์น่าอยู่  แต่ชิดถนนไปหน่อย นะ
สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่
จุดเด่นของถนนเส้นนี้ก็คือ ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่
จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  หลังเก่า
มองไปข้างหน้า คล้ายว่าจะมีต้นไม้ตั้งบนถนน
อ๋อ นี่คือต้นโพธิ์ใหญ่ที่ล้ำเขตถนน  เป็น " อันซีน " หนึ่งของนครพนม

บ้านใครหนอ  ติดโคมไฟเยอะจริงๆ
อ๋อนี่คือ  จวนผู้ว่าราชการจังหวัด
สวยมั๊ย ถนนสุนทรวิจิตร
อาคารเก่า  เป็นบ้านพักข้าราชการรูปทรงกระทัดรัดและดูแปลกตา


บ้านพักปลัดจังหวัด
มีการดูแลต้นไม้และสวนไม้ใบเป็นอย่างดี
สามแยกไปศาลากลางหลังเก่า


อาคารใหม่ที่ออกแบบให้ดูเก่า

ด้วยพื้นที่จำกัด  จึงออกแบบอาคารให้มีขนาดกระทัดรัด ใช้สัดส่วนเท่าที่จำเป็น



สโมสรข้าราชการ  แต่ใช้เป็นสำนักงานกาชาดนครพนมในเวลานี้  เออ ง่ายๆยังงี้นะ
ใครไม่ผ่านถนนสายนี้  ก็ถือว่ายังไม่ถึงนครพนม
ป้ายโรงเรียนถนนสุนทรวิจิตร ที่ใหญ่โตเกินจำเป็น  ก็เป็นอีกหนึ่ง " อันซีน "
อาคารเรียนมีอายุเก่าแก่และสวยงามตามยุคที่สร้าง

รูปทรงเรียบง่ายและคลาสสิคมาก

ทุกอย่างของเก่าดั้งเดิม  และมีสภาพแข็งแรงดี
ไปรษณีย์นครพนม
โรงพักนครพนม
มีคนถามว่า  ที่นี่มะเขือเปาะกับมะเขือเทศ  อย่างไหนมีมากกว่ากัน ????????

ศาลาชมวิวหน้าโรงพักนครพนม
ศาลจังหวัดในอดีต  ปัจจุบันเป็นบ้านพักข้าราชการศาล
ลานตะวันเบิกฟ้า
เข้าสู่เขตตลาดเก่าของเมืองนครพนม  ว่ากันว่าการค้าขายเริ่มที่นี่เมื่อร้อยปีก่อน
มีร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านเสื้อผ้าและร้านเหล้า อยู่สองฝั่งถนน
ถนนสายนี้เริ่มสร้างเป็นลูกรัง  ต่อมาเป็นถนนคอนกรีตเมื่อราว 60 ปีก่อน 
 แต่ถูกเทคอนกรีตเสริมเหล็กทับอีกครั้ง เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้เอง
อาคารไม้นี้เก่าที่สุดของบรรดาอาคารที่สร้างอยู่ริมโขง
มีร้านคาราโอเกะ  ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ติดกัน
ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวหมูทรงเครื่อง  ที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดของเมือง
เปิดบริการตั้งแต่  9.30 - 22.00  น. ทุกๆวัน
เจ้าของร้านทำเอง เสริฟเอง  นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว  ยังมีอาหารตามสั่งให้ทานด้วย
บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง  นั่งสบายเป็นกันเอง เห็นวิวริมโขง เมืองลาวสวยงาม
มุมสบายๆ ของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งเดียวที่ติดริมน้ำที่สุด
ทีมงานของร้าน เพิ่งพักเหนื่อย
ยังมีร้านขายเสื้อผ้าที่สวยนำสมัย อินเทรนด์อยู่ 2 ร้าน
ร้านนี้ขายเสื้อผ้าสตรีโดยเฉพาะ
ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่  เสื้อผ้าที่ร้านนี้ออกจะแพงสักนิด  แต่สวยมีรสนิยมคุ้มค่าเงิน
 ทั้งนี้  เจ้าของร้านจะลงไปคัดเลือกแบบเสื้อผ้าที่กรุงเทพด้วยตัวเอง
" ต้น " เจ้าของร้านเสื้อผ้าสวยนี้  เป็นคนตาแหลมมีรสนิยมในการเลือกเสื้อผ้า
ภายในมีเสื้อผ้าสวยๆให้เลือกมากมาย
นี่คือ ร้านเสื้อผ้า " มีนา " ขายเสื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยทั้งหญิงและชาย  ราคาไม่แพง
ร้านนี้นับว่าเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่โตโอ่โถงที่สุดของเมือง
" ป้าแขก " เจ้าของร้านใจดี  ต่อรองราคาได้  ยินดีต้อนรับทุกคนอย่างเป็นกันเอง
ร้านเสริมสวยสไตล์บูติกที่ตกแต่งสุดเปรี้ยวให้ถูกใจเจ้าของร้านเข้าว่า
  ชื่ออะไรไม่สำคัญ  เพราะเร็วๆนี้กำลังจะเปลี่ยนชื่อใหม่
เจ้าของร้านและช่างผม  ก็เป็นคนๆเดียวกัน  แต่หลายอารมณ์
เธอบอกว่า เธอชื่อ  " แฮปปี้ " แต่ใครๆชอบเรียกว่า  " ปอ "  
ส่วนใครจะเรียกชื่อไหน  ก็ไม่เป็นไร  ขอแต่ให้รู้จังหวะ เวลา และอารมณ์
แถบนี้  ก็มีร้านเหล้าบรรยากาศดี น่านั่ง  อยู่ร้านหนึ่ง
ร้านกินดื่ม " ชา บาร์ "  หรือ ร้านอาหารระเบียงไม้ ( เดิม )
       เหล้าเก่า ใน ขวดใหม่  ย่อมไฉไลกว่าเดิม  
       นี่คือ คำอธิบายของ ร้าน ชา บาร์
การตกแต่งหน้าร้าน  ทำได้น่าสนใจดี



คนๆเดียว  ที่เป็นทุกๆอย่าง   นักร้อง นักดนตรี พ่อครัว เด็กเสริฟ และเจ้าของร้าน

    บรรยากาศภายในร้าน ชา บาร์  ดูอบอุ่นและเป็นกันเองดี

                                                                          

หอนาฬิกาชาวเวียตนามอนุสรณ์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
สวยสง่าไร้กาลเวลา

การลาดผิวถนนใหม่ด้วยยางแอสฟัลท์เมื่อล่าสุดนี้  ถือเป็นการเทถนนเป็นครั้งที่ 3 
ของถนนสุนทรวิจิตรแล้ว  ขยันจังนะ
ฝรั่งเห็นแล้ว  เขาหัวเราะ " ประเทศยูรวยมากรึไง  รู้มั๊ยว่าของเดิมก็ดีอยู่แล้ว "
" ยูรู้มั๊ยว่า ถนนลาดยางนี่มันยืดหยุ่นกว่าถนนคอนกรีต เหมาะกับเมืองไทย
ที่มีรถราทุกประเภทวิ่งบนทางหลวง  แต่ไม่ค่อยเหมาะกับชุมชน 
ข้อดีคือ  มันถูก เสร็จเร็ว แต่อายุสั้น หลุดร่อนง่ายสึกหรอง่าย 
การบำรุงรักษาก็จุกจิกและมีเรื่อยๆ ผลก็คือ ถูกก่อน แพงทีหลัง "
" ถนนในเมืองที่มีทั้งคนทั้งรถพลุกพล่าน  ควรเป็นคอนกรีตถึงจะแพงก็คุ้ม 
เพราะมีแรงเสียดทานสูงกว่าลาดยาง ในยามฝนตกถนนจะลื่นมาก "
" เปรียบเทียบการเดินบนพื้นที่ผิวหยาบกับพื้นที่ผิวลื่น  
ยูคิดว่าอย่างไหนให้ความมั่นใจกว่ากัน "
นี่ฝรั่งเขาคิดนะ  หากว่าใครมีความรู้เรื่องนี้บ้าง  ก็ช่วยขยายความให้ด้วย ก็น่าจะดี
ว่าแต่ว่า  ทำไปทำไม  ?
ย่านการค้าเก่า  แต่ละอาคารมีอายุเกิน 60 ปีทั้งนั้นกับผิวจราจรใหม่หมาดๆ
อาคารเก่าที่ยังหลงเหลือเป็นบางส่วน  กับถนนนุ่มด้วยเงินเรา ( ทั้งนั้น )
อาคารเก่าบางส่วนถูกเวนคืนมาทำเป็นลานจอดรถ ในบริเวณท่าเทียบเรือ

เดิมสร้างเป็นอาคารท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว  แต่ทุกวันนี้ใช้เป็นท่าเทียบเรือเรือข้ามแดน

ทางลงไปเรือโดยสารข้ามฟากไทย - ลาว
บันใดนาคนี้ สร้างเพื่ออะไรก็ไม่ทราบ

ลานชมวิวสวยโอ่อ่า
ขั้นบันใดใช้นั่งชมวิวได้
บรรยากาศของลานชมวิว
ความลงตัวของถนน ที่จอดรถและลานชมวิว

ตลาดอินโดจีน  นครพนม  อลังการงานสร้างภายนอก แต่ดูบ้านๆมั่วๆภายใน
สินค้าที่ขาย  ก็มีเหมือนจังหวัดชายแดนอื่นๆ
สินค้าที่นี่มีราคาถูก โดยเฉพาะจำพวกเครื่องไฟฟ้าถ้าเสียแล้ว โยนทิ้งได้เลย
มุมมองแม่น้ำโขงจากตลาดอินโดจีน  นครพนม
ย่านตลาดอินโดจีน กับบรรยากาศริมโขง
เห็นท่าเรือขนส่งสินค้านครพนม - คำม่วน ตรงสามแยกป่าไม้ - นิตโย
ถนนนิตโย  มุ่งสู่สกลนครและกทม.
ท่าเรือขนส่งสินค้าข้ามแดน ฯ แห่งนี้จะถูกลดบทบาทลงในอีก 3 ปีข้างหน้า
เมื่อสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน สำเร็จและเปิดใช้การได้

นับจากนี้ไป นี่คือเขตพื้นที่ ที่เรียกว่า " บ้านใต้ "
วัดโพธิ์ศรี
ลานด้านริมโขงกว้างขวาง


ถนนสุนทรวิจิตร ขึ้นชื่อว่ามี  " ห้าวัด กับ หนึ่งโบสถ์ "
วัดกลาง
ชุมชนบ้านใต้ " คุ้มวัดธาตุ "


วัดมหาธาตุ  นครพนม



ศิลปะรูปทรงของพระธาตุแห่งนี้  ได้มาจากพระธาตุพนมองค์เดิมก่อนปฎิสังขรณ์
มุมนี้ก็ดูแปลกตาดี

หอสมุดในวัด

บ้านด้านขวามือ  เขาว่า  คนอยู่ไม่ได้สร้าง  คนสร้างไม่ได้อยู่ แล้วบ้านใครหละ ?
อ๋อ ก็บ้านนักการเมืองต่างถิ่นที่มาอาศัยพื้นที่นครพนม ทำมาหากิน
บ้านหลังนี้  คงไม่มีวันที่ เอ็ม 79 จะแผ้วพานได้ เว้นเสียแต่ อยากกลับตัวกลับใจ
บ้านนี้ก็ดูอบอุ่นดี  แต่ทำไมคนอยู่ถึงชอบพเนจรหมอนหมิ่นนัก
บริเวณชมวิว เห็นแม่น้ำโขงและหาดทรายสีทอง
ถนนสุนทรวิจิตร เชื่อมต่อกับหลายชุมชน  ที่ล้วนแล้วแต่เป็นย่านที่พักอาศัย
วัดพระอินทร์แปลง
ซุ้มประตูก็ออกแบบได้น่าสนใจดี
สิม หรือ พระอุโบสถ สวยแปลกตา  มีการผสมผสานศิลปะที่หลากหลาย

มุมนี้สวยดี
เห็นโรงแรมวิวโขงอยู่ข้างหน้า
ถนนคอขวดตรงจุดนี้  ก็เพราะที่ดินมีปัญหา
ร้านอาหารวิวโขงของโรงแรม  บรรยากาศดี เมนูก็บ้านๆทั่วไปแต่อาหารก็พอใช้ได้
ด้านหน้าของโรงแรมแห่งนี้  ดูจะชิดถนนเกินไปจนทำให้ขาดความโอ่อ่าสง่างาม
โรงแรมวิวโขงตั้งอยู่จุดท้ายสุดของถนนสุนทรวิจิตร
ใครนึกภาพนรกกับสวรรค์ไม่ออก  โปรดชม
เขตสิ้นสุดของถนนสุนทรวิจิตร  อยู่ตรงสามแยกหน้าโรงแรมวิวโขงนี้เอง  
ถนนที่เห็นข้างหน้าคือ  ถนนชยางกูร มุ่งหน้าสู่อ.ธาตุพนม มุกดาหารและอุบลราชธานี
สวัสดีครับ



ภาพแถม เพิ่งอัพเดท การทำผิวจราจรใหม่ เพื่อให้การขับขี่ยวดยานนุ่มนวลขึ้น
ไม่รู้ว่าเป็นโครงการใด ใครเข้ม เอ๊ย ไทยเข้มแข็ง หรือ ถนนไร้ฝุ่น
แต่ที่แน่ๆ  ก็คือ  การใช้เงินภาษีของประชาชน  อย่างไม่ค่อยจำเป็นเลย

สวัสดี อีกครั้งครับ